โชว์หน้าร้าน

ขนาดเปลี่ยนนิดเดียวแต่ราคาสูงขึ้่นเย๊อะจัง

เจอปัญหามากะตัวบ่อยมากเรื่องความเข้าใจเกี่ยวกับราคาที่สัมพันธ์กับขนาด
บางทีอยากได้งานที่สูงขึ้นแค่ ฟุตเดียว ทำไมราคาถึงต่างกันเย๊อะนัก อย่างหุ่นขนาด 150 ซม.
ราคา 3 หมื่นบาท หุ่นขนาด180 ซม ทำไมไม่ราคาซํก 36,000 แต่ราคากลับเป็น 4 หมื่นกว่าเลย
ที่ผ่านมานี่เอง ลูกค้าให้ทำราคา 150 ซม นี่แหล่ะ ก็ราวๆสามหมื่นกว่าๆ ทีนี้ลูกค้าอยากได้อีกตัว 2 เมตร
ราคามันกลายเป็นเท่าตัวซ๊ะนี่ เราก็พยายามอธิบายแต่เค๊าก็ไม่ฟัง บอกว่ารู้สึกว่าไม่น่าจะถึง การคำนวน
ราคางาน เน้นคำว่าคำนวนน๊ะครับ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยกฏคณิตศาสตร์ครับ ไม่ควรใช้ความรู้สึกน๊ะครับ
ความรู้สึกมักจะหลอกเราได้ครับ แต่ตัวเลขไม่หลอกครับ อย่าใช้ความรู้สึกกับการคำนวน
จะพยายามอธิบายให้ฟังเท่าที่ทำได้น๊ะครับ สมมุติ เราไปจ้างช่างปูกระเบื้อง มาปูกระเบื้องหน้าบ้านเรา ช่างคิด
ตารางเมตรละ 200 บาท ตารางเมตรหมายถึง กว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตรน๊ะครับ ถ้าบ้านเรากว้าง 2 เมตร ยาว 2
เมตร หมายความว่า เราต้องจ่ายค่าปูกระเบื้อง 400 บาทครับ ใช่ที่ไหนหล่ะครับ ขืนจ่าย 400 บาท มีหวังช่างได้เอา
อะไรเขวี้ยงใส่หน้าเอาครับ ถ้าขนาดที่ปู กว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร ก็ต้องเอา 2 ไปคูณ 2 ครับ ได้เท่าไหร่ครับ 2 หนึ่งสอง
สองสองสี่ สี่ครับ 4 ตารางเมตร พอได้ขนาดมาแล้วค่อยเอาขนาดไปคูณกับราคาต่อตารางเมตรก็ได้ เท่ากับ 200คูณ4
200คูณ4 ก็เท่ากับ 800ครับ ราคาต่างกันมากน๊ะครับ เท่าตัวเลย
ทีนี้ถ้า เกิดเราเห็นว่าค่าปูกระเบื้องแค่ 800 ราคาแค่นี้จ่ายสบายมาก อย่ากระนั้นเลย ปูมันหมดทั้งบ้านเลยละกัน เกิดบ้าน
เรามีพื้นที่ กว้าง 6 เมตร ยาว 6 เมตร หล่ะต้องจ่ายค่าปูกระเบื้องเท่าไหร่ ถ้าใช้ความรู้สึกหล่ะ เมื่อกี๊ 2 เมตร 400 เอง งั้นถ้า 6
เมตรน่าจะซํก 1200 ได้ อ้อ ก็กว้่างขึ้นมา 3 เท่าไง ใช่ครับ ถ้าตามความรู้สึกอาจจะเป็นแบบนั้น แต่นี่เป็นชีวิตจริงครับ สามารถ
พิสูจน์ได้ด้วยคณิตศาสตร์ ป 4 ง่ายๆเลย พื้นที่เกิดจาก กว้างคูณยาวครับ ต้องเอากว้างไปคูณยาวถึงจะได้พื้นที่ครับ เพราะฉะนั้น
6คูณ6 เท่ากับ 36 ตารางเมตร ค่าปูตารางเมตรละ 200 เอา 36 คูณ 200 เท่ากับ 7,200 ครับ ต่างกับ 1,200 เย๊อะไม๊ครับ 6 เท่า
เลยน๊ะครับ ไม่น่าเชื่อ ก็ มันกว้างออกมาแค่ 6 เมตร เองทำไมมันมากมายมหาศาลขนาดนี้ แล้วจะมีเงินจ่ายค่าปูกระเบื้องเหรอ
อย่าไปบอกช่างน๊ะครับว่าดูแล้วรู้สึกว่าไม่น่าจะเกิน พันกว่าบาทเลยนี่ เดี๋ยวช่างจะนั่งหลับตาใช้ความรู้สึกทำงานให้น๊ะครับ คงไม่

ต้องคำนวนให้ดูอีกน๊ะครับว่าหยั่งงี้จะได้งานเมื่อไหร่
แล้วมันเกี่ยวกับการคำนวนราคาหุ่นไฟเบอร์กลาสยังไงหล่ะ ก็เกี่ยวอยู่ครับ แต่ไม่ทั้งหมด มันจะซับซ้อนกว่ามาก ที่ยกตัวอย่างงาน
ปูกระเบื้องให้ดูเพราะมันใกล้ตัวและเห็นชัดเจนกว่า แต่งานปูกระเบื้องเป็นแต่การคำนวนแบบ 2 มิติ คือกว้างคูณยาวแค่นั้น แต่งาน
ผลิตหุ่นไฟเบอร์กลาสเป็นการคำนวนแบบ 3 มิติครับ เพราะงานมีลักษณะลอยตัวมีปริมาตร และพื้นที่ด้วย การคำนวนซับซ้อนกว่ามาก
นัก เรียกว่าจริงๆแล้วไม่มีสูตรคำนวนแบบละเอียด แต่เราสามารถคำนวนคร่าวๆได้
ผมคงไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ว่าราคาหุ่นตัวนึงได้มายังไงแต่จะสามารถเปรียบเทียบขนาดแต่ละขนาดให้ดูได้ว่าต่างกันยังไงซึ่งก็
มีผลกับราคาด้วย เพราะราคาการผลิตหุ่นไฟเบอร์กลาส เกิดจาก2-3 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกการปั้น หรือแกะต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็นดินเหนียว
หรือ แกะโฟม ขั้นตอนนี้จะมีปริมาตรเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะต้องใช้เนื้อดิน หรือโฟมเป็นวัสดุ ต้องคำนวนแบบกว้าง ยาว สูง
กับขั้นตอนการหล่อไฟเบอร์กลาส ขั้นตอนนี้ มีทั้งปริมาตร คือน้ำยาเรซิ่นที่ใช่ สัมพันธ์กับพื้นที่ชิ้นงาน ซึ่งก็คือพื้นที่ ที่เราปูไฟเบอร์กลาสลง
ไปครับ นอกนั้นก็มีการขัดแต่ง การทำสี ซึ่งเนื้องานตรงนี้ก็จะมากน้อยก็ขึ้นกับพื้นผิวงาน กับรายละเอียดความซับซ้อนของงานด้วย
ดูตัวอย่างคร่าวๆกับ ก้อนสี่เหลี่ยมขนาด กว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร สูง 1 เมตรครับ ปริมาตรของมันคือ 1 ลูกบาตรเมตร(กว้างคูณยาวคูณสูง)
สมมุติราคาอยู่ที่ 1 หมื่นเปรียบเทียบขนาดไฟเบอร์กลาส
บาทถ้วนครับ ทีนี้ถ้าเกิดเราอยากขยายเสกลงานเป็นสูง 1.5 เมตรหล่ะ เพิ่มแค่ 50 เซ็น นิดเดียวเอง ราคาน่าจะซัก หมื่นกว่าๆได้มั๊ง ลองพิสูจน์ดูได้ครับ
เราต้องการขยายความสูงเป็น 1.5 เมตรก็จริง แต่ด้านอื่นอีก 2 ด้านก็ต้องขยายตามกันให้ได้สัดส่วน(ไม่งั้นมันจะสูงชลูด เป็นต้นตาลแทน) ซึ่งก็จะเป็น กว้าง 1.5 ยาว 1.5 สูง 1.5 เมตร
คำนวนปริมาตรได้เท่ากับ 1.5X1.5X1.5 = 3.4 ลูกบาตรเมตร ปริมาตรเพิ่มขึ้นจากเดิม 3.4 เท่า!
ทีนี้มาดูของเดิม ปริมาตร 1 ลูกบาตรเมตร ราคา 1 หมื่นถ้วน ถ้าเป็น 1.5 เมตร ก็เอา 1หมื่นไปคูณ 3.4 =34,000!
มันเป็นไปได้ไง เพิ่มมาแค่ 50 เซ็นเอง จากหมื่นเดียวกลายเป็นสามหมื่นกว่าได้ไง ไม่จริงใช่ไม๊เนี่ย จริงครับ ตัวเลขไม่เคยโกหกครับ(ถ้าเรากดเครื่อง
คิดเลขไม่ผิดน๊ะ)จะให้เห็นภาพว่าขนาดแค่เพิ่มมา 50 เซ็น แต่มันใหญ่ต่างกันมาก ต้องดูรูปครับ ถึงจะเห็นว่ามันต่างกันหยั่งกะพ่อกะลูกเลย เพราะ
มันเกิดจากการคำนวน 3 มิติครับ ขนาดแค่เพิ่มมานิดเดียวแต่ทำให้เนื้องานมันต่างกันได้มากครับ การคำนวน 3 มิติมันน่ากลัวขนาดนี้หล่ะครับ จริงๆแล้ว
มีที่น่ากลัวกว่านี้อีกครับ ดอกเบี้ยทบต้นไงครับ มันสามารถเพิ่มแตกหน่อได้เป็นร้อยเท่าพันทวี เพราะมันมีการคำนวนระยะเวลากับปริมาณที่เพิ่มทบไปเรื่อยๆ
เป็นตัวแปร อย่าไปติดกับมันเข้าให้หล่ะครับ ถอนตัวยากเลย
นอกเรื่องไปไกล เดี๋ยวใครจะนึกว่าเราปล่อยเงินกู้นอกระบบ
ทีนี้พอเข้าใจแล้วน๊ะครับว่าเหตุใดงานไฟเบอร์กลาส ที่ขนาดเพิ่มขึ้นนิดเดียวแต่ราคามันเพิ่มเย๊อะจังครับ ถ้าไม่เข้าใจสามารถถามได้ครับที่เบอร์
0814022344 line id:anubistfx

ไฟเบอร์กลาส ไฟเบอร์กลาส ไฟเบอร์กลาส

Unveiling the Business Benefits of Fiberglass Sculptures

In the realm of business aesthetics, the use of fiberglass sculptures is increasingly proving to be a strategic and impactful choice. Far beyond mere decorative elements, these sculptures offer a multitude of advantages that can significantly elevate a business’s brand, environment, and overall appeal. From enhancing brand image to fostering unique customer experiences, here’s why investing in fiberglass sculptures can be a game-changer for businesses.

1. Captivating Visual Appeal

The allure of fiberglass sculptures lies in their ability to captivate attention. Whether placed indoors or outdoors, these sculptures instantly become focal points, drawing the eyes of passersby. A striking, well-placed sculpture can create a visual signature for a business, making it instantly recognizable and memorable. This unique visual appeal can differentiate a business from its competitors, leaving a lasting impression on clients and customers alike.

2. Reinforcing Brand Identity

Every business aspires to stand out and assert its unique identity. Fiberglass sculptures offer a creative canvas to reflect a company’s ethos, values, or even its product offerings. Custom-designed sculptures can embody the brand’s story, communicating its narrative in a visually compelling manner. When integrated into the business environment, these sculptures reinforce brand recognition and leave a distinctive mark on the minds of customers, contributing to brand loyalty and recall.

3. Enhancing Ambiance and Atmosphere

The ambiance of a business space plays a pivotal role in customer experience. Fiberglass sculptures, whether elegant, whimsical, or avant-garde in design, have the power to transform the ambiance of a place. These sculptures can evoke emotions, set tones, and create immersive environments that resonate with customers. For instance, a serene sculpture in a spa or a dynamic piece in a corporate lobby can influence how visitors perceive and engage with the space.

4. Low Maintenance, High Durability

Practicality is key in any business investment. Fiberglass sculptures offer the advantage of being low maintenance while retaining durability. Resistant to weather elements and corrosion, these sculptures require minimal upkeep, making them a cost-effective and sustainable choice for long-term aesthetics.

5. Public Relations and Marketing Opportunities

In the age of social media and digital marketing, unique visual elements can become powerful marketing tools. Eye-catching fiberglass sculptures serve as perfect backdrops for social media posts, attracting online attention and potentially going viral. Additionally, businesses can leverage these sculptures as focal points for events, garnering media coverage and enhancing public relations.

6. Artistic Collaboration and Community Engagement

Collaborating with local artists to create fiberglass sculptures can foster community engagement. Such partnerships not only support the arts but also establish a connection between the business and its community, enhancing goodwill and fostering a sense of belonging.

In conclusion, fiberglass sculptures offer a myriad of benefits for businesses, ranging from enhancing visual appeal and brand recognition to fostering customer engagement and community ties. As a versatile and impactful artistic medium, these sculptures hold the potential to elevate the business landscape and leave an indelible mark on customers and communities alike. Incorporating these sculptures isn’t just about art; it’s a strategic investment in the business’s identity, image, and long-term success.